พื้นฐานทางด้านปรัชญาการศึกษา
1. พื้นฐานทางด้านปรัชญาการศึกษา
ในวงการศึกษาปรัชญาได้เข้ามามีบทสําคัญต่อการจัดการศึกษา
โดยเฉพาะปรัชญาการศึกษา ซึ่งหมายถึงอุดมคติ
อุดมการณ์อันสูงสุดซึ่งยึดเป็นหลักในการจัดการศึกษามีบทบาทในการเป็นแม่บทเป็นต้นกําเนิดความคิดในการกําหนดความมุ่งหมายของการศึกษา
และเป็นแนวทางในการจัดการศึกษา ตลอดจนกระบวนการในการเรียนการสอน
ดังนั้นในการจัดการศึกษาโดยเฉพาะระดับประเทศปรัชญาการศึกษาจึงมีความสําคัญมาก
เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยกําหนดทิศทางในการจัดการศึกษา
ช่วยกําหนดหลักการและ จุดมุ่งหมายของหลักสูตร รวมทั้งสิ่งอื่นที่จะตามมาคือ
การเลือกเนื้อหาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และการประเมินผลเป็นต้น
ปรัชญาการศึกษาต่าง ๆ มีดังนี้
- ปรัชญาสารัตถนิยมหรือสาระนิยม
(essentialism) เป็นปรัชญาที่ได้รับอิทธิพลจากปรัชญาทั่วไปสาขาจิตนิยม
(idealism) และสัจนิยม (realism) ถือว่าบุคคลเป็นส่วนหนึ่งของสังคม และเป็นเครื่องมือของสังคม
บุคคลต้องอุทิศตนเพื่อสังคม สะสมมรดกของสังคม
และสืบทอดวัฒนธรรมของสังคมให้คงอยู่ต่อไป
การจัดการศึกษาตามแนวคิดนี้จึงมีลักษณะเป็นการถ่ายทอด
และอนุรักษ์วัฒนธรรมของสังคมเพราะเห็นว่า สิ่งที่นํามาสอนนั้น ดีงาม ถูกต้อง
และกลั่นกรองมาดีแล้วเนื้อหาวิชาที่นํามาสอนจะเป็นการเตรียมผู้เรียนให้มีชีวิตที่ดี
เช่น การอ่าน การเขียน เลขคณิต ประวัติศาสตร์วรรณคดี ปรัชญาศาสนา เป็นต้น
เนื้อหาเรียงลําดับจากง่ายไปสู่สิ่งที่ซับซ้อน จากรูปธรรมไปสู่นามธรรม การจัดการเรียนรู้ยึดครูผู้สอนเป็นศูนย์กลาง
เน้นการถ่ายทอดความรู้ให้ผู้เรียน รับรู้และจํา คํานึงถึง
เนื้อหาสาระมากกว่าความแตกต่างระหว่างบุคคล
วิธีสอนที่ใช้มากคือการบรรยายหรือการพูดของครู
ผู้เรียนต้องอยู่ในระเบียบวินัยจนสามารถทําสิ่งต่าง ๆ ได้
การประเมินผลเน้นด้านความรู้
- ปรัชญานิรันตรนิยม
(parennialism) ปรัชญานี้มีความเชื่อว่า
สิ่งที่มีความคงทนถาวร ย่อมเป็นสิ่งที่ดีงามเป็นจริงมากกว่าสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้
การจัดการศึกษาจึงควรให้เรียนในสิ่งที่ดีงาม มั่นคง มีเสถียรภาพ
เนื้อหาวิชาที่เรียนจะเป็นวิชาที่พัฒนาเชาวน์ปัญญาและจิตใจ เช่น วิทยาศาสตร์
ตรรกศาสตร์ ภาษาศาสตร์ วรรณคดี ไวทยากรณ์ศิลปะการพูด คณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์
และดนตรี ถือเป็นความสําคัญของมนุษย์และเตรียมตัว เพื่อการดํารงชีวิตการจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนทุกคนเรียนเหมือนกันหมด
วิธีสอนใช้การฝึกฝนทางปัญญา เช่น การอ่าน การเขียน การฝึกทักษะ การท่องจํา
การคํานวณ และการถามตอบ
- ปรัชญาพิพัฒนาการนิยม หรือปรัชญาพิพัฒนนิยม หรือปรัชญาวิวัฒนาการนิยม(progressivism)
ปรัชญาการศึกษานี้ถือว่าการศึกษาเป็นเครื่องมือของสังคมในการถ่ายทอดวัฒนธรรมแก่ชนรุ่นหลัง
มีความเชื่อว่าการศึกษาเป็นชีวิตมากกว่าเป็นการเตรียมตัวเพื่อชีวิต
และส่งเสริมวิธีการแบบประชาธิปไตย
การจัดการศึกษาตามแนวนี้จะมุ่งส่งเสริมพัฒนาการเด็กทุกด้าน เน้นการปฏิบัติจริง
และความสัมพันธ์กับสภาพจริง การจัดการเรียนรู้ยึด ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
ให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ตรง
กระบวนการจัดการเรียนร้มีหลายลักษณะยึดหลักความสนใจของผู้เรียนที่จะแก่ปัญหาสังคมต่าง
ๆ วิธีการใช้มากคือการทําโครงการการอภิปรายกลุ่มและการแก้ปัญหาเป็นรายบุคคล
- ปรัชญาอัตนิยม
หรือปรัชญาอัตถิภาวนิยม หรือปรัชญาสวภาพนิยม (existentialism) ปรัชญานี้มีความเชื่อว่า ธรรมชาติของคน
สภาพแวดล้อมทางสังคมเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้
ทุกคนสามารถกําหนดชีวิตของตนเองจึงเน้นการอยู่เพื่อปัจจุบัน
การปรับตัวให้เข้ากับสภาพของสังคม เผชิญกับปัญหาต่าง ๆ
ได้อยู่อย่างมีความสุขการจัดการศึกษาจึงให้ ผู้เรียนมีอิสระในการเรียนรู้
การตัดสินใจ สอนให้เด็กเป็นตัวของตัวเอง มีเสรีภาพในการเรียน
และเลือกเรียนมีความรับผิดชอบในตนเอง ครูผู้สอนเป็นเพียงผู้ชี้แนะแนวทาง
การจัดการเรียนรู้เน้นพัฒนาการของผู้เรียนแต่ละคน วิชาที่เรียนเป็นวิชาที่พัฒนา
ความสามารถของบุคคลเฉพาะลงไปเช่นศิลปะปรัชญาวรรณคดีการเขียนการละครเป็นต้น
ปรัชญาปฏิรูปนิยม (reconstructionism) ปรัชญานี้มีความเชื่อว่าการศึกษาควรจะเป็นเครื่องมือในการเปลี่ยนแลงสังคมโดยตรง
เน้นการจัดการศึกษาเพื่อสร้างสังคมให้ดี รู้จักการอยู่ร่วมกันในสังคม
ช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม อนาคตเป็นศูนย์กลาง
มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้
ความสามารถและทัศนคติที่จะออกไปปฏิรูปสังคมให้ดีขึ้น
เนื้อหาวิชาเน้นหนักในหมวดสังคมศึกษา ด้านพฤติกรรมศาสตร์
อิทธิพลของชุมชนการจัดการเรียนรู้
ส่งเสริมให้ผู้เรียนสํารวจความสนใจและความต้องการของตนเองใช้วิธีสอนแบบให้ผู้เรียนค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเองเน้นการอภิปรายการแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่าง
ๆ โดยเฉพาะเรื่องปัญหาของสังคม พร้อมให้ข้อเสนอแนะในการปฏิรูปสังคมด้วย
ตารางสอนจัดแบบ
ยืดหยุ่น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น